ผมมีความฝันเล็กๆที่อยากทำให้สำเร็จ
.
บางทีอาจเรียกว่าเป็นความทะเยอทะยาน เป็นควาคิดแบบเด็กๆ ที่หวังให้เกิดการเติบโตที่ไกลสุดกู่ แต่ผมมีความเชื่อว่า หากทำได้ มันไม่ใช่คนผม หรือ คนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันจะมีความสุข แต่มันจะทำให้สังคมนี้ ขยับไปข้างหน้า
.
ย้อนกลับไปหลายปี ผมพยายามทำงานสังคม ในมุมมองของสื่อ นักข้อมูล นักประสาน จนกระทั่งนัดจัดการ จนพบว่า ท้ายที่สุด งานสังคม ไม่อาจละเลยสิ่งที่เรียกว่าวัฒนธรรมได้เลย
.
ผมจึงเริ่มกลับมา เรียนรู้ "เจิง" ศาสตร์ที่วันนี้มีวิทัศน์ที่ก้าวหน้ากว่าเดิม มีการยอมรับมากขึ้นว่า เป็นการ #ต่อสู้ ฉบับล้านนา เป็นศิลปะพื้นบ้าน เป็นการผสานระหว่าง ศาสตร์และศิลป์ ความอ่อนช้อย และความห้าวหาญ ผสมกันอย่างกลมกล่อม
.
แม้จะมีเรื่องปลีกย่อยความความเป็น #เจิง และ #กระบี่กระบอง ความเหมือนความต่าง ซึ่ง ยากที่จะอธิบายให้ขาดจากกัน แต่ผมได้ยินผู้รู้ทางศิลปะช่วงวิพากษ์โขน ท่านบอกว่า เป็นการไหลของวัฒนธรรม
.
ซึ่งครูเราให้ความเห็นมานานมากว่า สิ่งที่มีเหมือนกัน ต่างกันหากทำให้ต่างกัน ซึ่งความต่างกัน นั้นอยู่บนฐานของ วัฒนธรรม ทั้งเสื้อผ้า อาภร ยุทธภัณฑ์ เหล่านี้ล้วนสร้างรูปแบบความเคลื่อนไหวตามปัจจัยถิ่นที่อยู่
.
ศิลปะศาสตร์ต่างแขนงที่แตกตัวออก ล้วนพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกันเช่นนี้ จึงความใกล้ และไกลจากศาสตร์เคียงกัน
.
.
เรื่องนี้จะอธิบายยาวขึ้นหากไม่ได้ปฏิบัติ แน่นอนว่า การฝึกฝน ก็ย่อมต้องใช้เวลา แต่เดิม หาคนฟ้อนเจิง ก็ลำพังยากอยู่ และทุกวันนี้ ยิ่งจะหาคนฝึกเจิงรบด้วย เหสมือนยากยิ่ง
.
แต่ทุกสิ่งก็ล้วนเป็นไปได้
.
.
พี่ชายในสายเจิง ครูนิค กำลังจะวางแผนเพื่อพัฒนาวงการเจิง ให้หลากหลาย งดงาม ซึ่งปักหมุดไว้ ปลายปี 63 เราในฐานนะคนเล่นเจิง จึงอยากเสริมหนุน จุนเจือ เกื้อกูล
.
มีทุน มีสติปัญญา มีทักษะ ก็พึงฮอม เติม ลงไป เพราะอย่างที่บอกแต่ต้นว่า เจิง คือศาสตร์เก่าที่เล่าใหม่ บนฐานความเข้าใจที่ต้องอาศัยเวลา เรียนรู้ บ่มเพาะ แต่ลำพัง จะรอรัฐให้สนับสนุน คงต้องลงทุนด้วยเวลา จนอาจอยู่ได้ไม่ถึงวันที่ได้สอน ได้สืบสาน
.
การทำงานเชิงรุกจึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากเจิงตื่นฟื้นจากหลับ ใช่เพียงแต่คนเล่นเจิง แต่เสื้อผ้า อาวุธ เครื่องลาง แลกกิจกรรมทางกาย ทั้งชายหญิง ก็จะครบ และเกิดเติบโตเป็นสังคมแห่งวัฒนธรรม
.
ชายหาญจะแต่งผ้าอันงามเลิศได้อย่างไม่เขินอาย จะสะพาย พาด ถือ อาวุธได้อย่างแม่นมั่น จะกุมกับของขลังได้ดังสมแก่ค่าควร ชาติใดจะงดงามปานเรานั้นหาได้ยาก ทั้งจารีต ประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรม
.
การที่จะรณรงค์ให้เกิดปรากฎการ #ชายหาญ นั้นยากแท้ แต่ผมว่าเป็นสิ่งซึ่งควรค่า เพราะนอกจาก วงการเจิง จะฟูเพื่อง ธุรกิจแวดล้อมก็จะเติบโต รวมถึงเศรษฐกิจสร้างสรรค การท่องเที่ยวบนฐานวัฒนธรรมก็จะดีขึ้นตามมาโดยลำดับ
.
ผมอยากเชิญพี่ๆน้องๆมาร่วมฝึกฝน เรียนรู้ และเติบโตไปด้วยกัน ทีมลำพูน ตอนนี้ ถือได้ว่าพร้อม แก่การถ่ายทอด เราไม่ได้ต้องการลูกศิษย์ แต่เราต้องการเพื่อนร่วมฝึก ต้องการพี่น้อง เพื่อสร้างสรรค์สังคมแห่งวัฒนธรรม ชายหาญล้านนา
.
อนาคต ที่จะมีพื้นที่สร้างสรรค์เช่นเดียวกับ ญี่ปุ่น ที่มีเทศกาลซามูไร คงไม่ไกลเกินไป เพียงแต่ เรา เริ่มก้าวเล็กๆ จากนี้ ก้าวแรก และก้าวไปเรื่อยๆ
.
18 มกราคม 2562

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น